FAQ, การแต่งหน้า-makeup

รู้หรือไม่… ‘การแต่งหน้า’ ก็มีประโยชน์มากเลยนะ!?

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2-makeup-perfect

เพราะ “การแต่งหน้า” ไม่ได้มีดีแค่สวยอย่างเดียว?!

ปัจจุบันนี้เรื่องของความสวยความงาม เป็นเรื่องที่สุภาพสตรีใส่ใจเป็นอย่างมาก และสุภาพสตรีส่วนใหญ่ก็จะให้ความสำคัญกับการใช้เครื่องสำอางเพื่อเสริมให้ใบหน้าแลดูสวยงาม

ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีจนเหล่าหนุ่มๆต้องหันมาเหลียวมองกันเลยทีเดียว เรามาดูกันว่าการแต่งหน้ามีข้อดีอย่างไรบ้าง

1. ปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด

การแต่งหน้าช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะมีสารกันแดดผสมอยู่

เครื่องสำอางส่วนใหญ่จะมีสารกันแดดผสมอยู่ ทำให้เมื่อแต่งหน้าจึงสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้โดยไม่ต้องทาครีมกันแดด ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวหน้า พร้อมปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย

นอกจากนี้ก็ยังสามารถดักจับมลพิษและฝุ่นผงต่างๆไม่ให้สัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง ถือเป็นการปกป้องผิวจากมลภาวะได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเทรนด์ใหม่ล่าสุดคือ การปกป้องผิว 2 ขั้นด้วย HEV Shielding และ Sunray Shielding

แสงสีฟ้าจากมือถือทำหน้าหมองคล้ำ

นั่นคือ การปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า หน้าจอโทรศัพท์มือถือ และแสงแดด นับเป็นการปกป้องผิวจากรังสี UV ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ

2. สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

อยากมีใบหน้าที่สวยใส จมูกโด่งและหน้าดูเรียวเล็กลง โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม การแต่งหน้า สามารถช่วยคุณให้สวยและดูดีได้ ด้วยเทคนิคการแต่งหน้าในแบบต่างๆที่สามารถปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า

การแต่งหน้าทำให้ใบหน้าดูสวยโดดเด่น โดยไม่ต้องไปศัลยกรรม

ทำให้ใบหน้าแลดูสวยขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที สาวๆหลายคนจึงเลือกวิธีการแต่งหน้าแทนการไปทำศัลยกรรม เพราะทั้งประหยัดเงิน ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงต่างๆที่มีโอกาสเกิดขึ้นตามมาในอนาคต

3. บำรุงผิวสวย

เครื่องสำอางส่วนใหญ่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มกระชับและมีสุขภาพผิวที่ดี แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกยี่ห้อของเครื่องสำอางให้ดี เพราะบางยี่ห้ออาจมีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้

รองพื้นที่ใช้ในเมืองที่อากาศร้อนควรจะกันน้ำและเหงื่อ

โดยเครื่องสำอางพื้นฐานที่จำเป็น เช่น แป้งและรองพื้น จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ยิ่งสภาพผิวคนไทยที่อยู่กับอากาศร้อนและมีมลภาวะ แป้งและรองพื้นจะต้องกันน้ำ กันเหงื่อและควบคุมความมันได้ดี

เช่น การควบคุมความมันด้วย Dual Oil Control เพิ่มความติดทนนานของเครื่องสำอางและช่วยอำพรางรูขุมขน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใส รวมถึงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารบำรุงผิวที่มาจากธรรมชาติ

เช่น WIN-LIFTING ซึ่งเป็นการผสานคุณค่าระหว่างองุ่นแช่แข็งสายพันธุ์สวิสเซอร์แลนด์กับยางไม้จากเมล็ดของต้นทารา ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขาวใส แลดูเต่งตึง ชุ่มชื่นมากขึ้น

4. เพิ่มเสน่ห์ให้สวยน่าดึงดูด

การแต่งหน้าช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้สวยน่าดึงดูด

สุภาพสตรีทุกท่านไม่ได้เกิดมาพร้อมกับการมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดทุกท่านเสมอไป แต่เราก็สามารถสร้างเสน่ห์อันน่าหลงใหลให้กับตัวเองได้ด้วยการแต่งหน้า แค่เรียนรู้เทคนิคและฝึกฝนทักษะในการแต่งหน้าให้เก่งสักนิด

โดยมีเครื่องสำอางดีๆเป็นตัวช่วย คุณก็จะกลายเป็นสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่มีความสวยโดดเด่น มีความมั่นใจ มีบุคลิกภาพที่พลิกโฉม หนุ่มๆย่อมอยากรู้จักและหมายปอง จนผู้หญิงหลายคนสามารถมีคู่ครองได้จากการเพิ่มเสน่ห์ด้วยการแต่งหน้านั่นเอง

เราจึงขอแนะนำขั้นตอนการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางค์ S Mone’ Perfect เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดต่างๆอันได้แก่ ครีมรองพื้น แป้งพัฟ บรัชออน ลิปสติก อายแชโดว์ อายไลเนอร์ อายโบรว์ อย่างเหมาะสม

การแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางคุณภาพ S Mone' Perfect ของบริษัทซัคเซสมอร์

ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการเตรียมผิวและ ขั้นตอนการแต่งหน้า ซึ่งเป็นวิธีการพื้นฐานในการแต่งแต้มความสวยงามและเพิ่มความมั่นใจให้กับสุภาพสตรีมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 1

หลังจากล้างหน้าเพื่อทำความสะอาดผิวหน้า ให้ทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวก่อน พอครีมซึมเข้าสู่ผิวจนแห้ง จากนั้นค่อยลงรองพื้น โดยเรามีเทคนิคในการเลือกเฉดสีของรองพื้น

หลังล้างหน้าควรทามอยเจอไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวหน้า

ด้วยการแต้มรองพื้น บริเวณใบหน้า หรือกราม โดยแต้มทั้ง 3 เฉดสีไล่กันบริเวณช่วงกราม แล้วเทียบเฉดสีที่ใกล้เคียงสีผิวหน้ามากที่สุด

ขั้นตอนที่ 2

เลือกใช้ครีมรองพื้นที่ปกปิดได้อย่างเรียบเนียนและเกลี่ยง่ายอย่าง รองพื้น S Mone’ Perfect Foundation โดยเริ่มเกลี่ยรองพื้นจากกลางหน้าผากก่อนแล้วค่อยเกลี่ยออกไปด้านข้างให้ทั่ว

รองพื้นหน้าเนียนคุมมัน perfect foundation SPF 25 PA+++

จากนัั้นเกลี่ยที่แก้มไล้ออกด้านข้าง มาต่อที่บริเวณจมูกก็เกลี่ยออกด้านข้างเช่นกัน และที่สำคัญควรเกลี่ยรองพื้นบริเวณต้นคอลากลงไปจนถึงปลายคอ เพื่อให้สีผิวเนียนเรียบเท่ากันด้วย

ขั้นตอนที่ 3

หลังจากลงรองพื้นและเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าแล้วให้ใช้นิ้วแตะเบาๆให้ทั่วใบหน้า จะช่วยให้รองพื้นติดแน่นดูเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนที่ 4

ใช้พัฟแตะ แป้งฝุ่น S MONE’ SMOOTH SILKY LOOSE POWDER แล้วกดซับเบาๆให้ทั่วใบหน้า โดยการใช้แป้งฝุ่น Loose Powder จะช่วยให้ครีมรองพื้นติดทนและปกปิดได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 5

สำหรับสุภาพสตรีท่านใดไม่ชอบทาครีมรองพื้น หรืออยากแต่งหน้าสไตล์สวยใสเป็นธรรมชาติ สามารถลดขั้นตอนการแต่งหน้าด้วยการใช้ แป้งผสมรองพื้น S Mone’ Perfect Powder Foundation

แป้งผสมรองพื้น S Mone' Perfect Powder Foundation

ซึ่งเป็นแป้งอัดแข็งที่มีส่วนผสมของรองพื้น โดยใช้พัฟแตะแป้ง กดซับเบาๆ จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เพียงเท่านี้ เราก็สามารถดูดี มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสวยงามและปกปิดริ้วรอยอย่างมืออาชีพได้แล้ว

ปัญหาผิวพรรณจากมลภาวะ

แสงแดดเท่านั้นหรือที่เป็นตัวทำร้ายทำลายผิวหน้าให้แก่ก่อนวัย เพราะในความเป็นจริงแล้ว มลภาวะก็เลวร้ายไม่แพ้กัน โดยมลภาวะถือเป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจของผิวรองจากแสงแดดเลยทีเดียว

นักวิทยาศาสตร์พบว่ามลภาวะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัย เป็นตัวการที่ทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำและรอยแดงบนผิว ในปี 2010 The Journal of Investigative Dermatology ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่ทำการเปรียบเทียบสภาพผิวของผู้หญิงวัยผู้ใหญ่

ทั้งแสงแดดและมลภาวะต่างก็ทำร้ายผิวให้ทรุดโทรมและแก่ก่อนวัย

ลุ่มที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กับกลุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท พบว่า ผู้หญิงกลุ่มแรกมีสีผิวที่เข้มคล้ำและมีริ้วรอยมากกว่าผู้หญิงกลุ่มถัดมาถึง 22% สาเหตุของความแตกต่างนี้ก็คือ มลภาวะที่เกิดจากควันและฝุ่นละอองที่อยู่บริเวณเส้นทางมอเตอร์เวย์นั่นเอง

คนส่วนใหญ่รู้จัก “คอลลาเจน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเพื่อช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง แต่พอถึงช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป การผลิตคอลลาเจนก็จะลดน้อยลง ทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นขึ้น

ยิ่งช่วงอายุนี้อยู่ในวัยทำงาน ต้องเดินทางทุกวันจึงต้องพบกับมลภาวะทางอากาศที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวันและส่งผลกระทบต่อผิวหน้า รวมถึงสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศมีอนุภาคเล็กกว่ารูขุมขนถึง 20 เท่า

ยิ่งอายุมากขึ้น ปัญหาผิวพรรณก็จะเห็นเด่นชัดขึ้น

ทำให้มลพิษเข้าไปฝังอยู่ในผิวหน้า ทำให้เซลล์บนผิวหน้าเสื่อมสภาพหรือเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ขึ้น ส่งผลให้การผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวลดน้อยลงกว่าเดิม

เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นตามมา เมื่อผู้คนส่วนใหญ่ยากที่จะหลีกเลี่ยงแสงแดดและมลภาวะจากการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เนื่องจากปัจจัยด้านที่อยู่อาศัย การเดินทางไปทำงานและการดำรงชีวิตที่เร่งรีบ

การดูแลผิวอย่างถูกต้องและเหมาะสมก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยปกป้องผิวของคุณ ไม่ให้หมองคล้ำหรือเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นขึ้น โดยมีคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

1) การทำความสะอาดผิวแบบล้ำลึก

การทำความสะอาดผิวหน้าให้ล้ำลึก ควรใช้คลีนซิ่งในการเช็ดทำความสะอาด

การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการขจัดฝุ่นและมลภาวะ ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดผิวในขั้นตอนแรกและใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชำระล้างสิ่งสกปรกในชั้นลึกอีกครั้ง

ก็สามารถขจัดมลพิษที่ฝังอยู่ในรูขุมขนให้หลุดออกไป ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดหมดจด ป้องกันรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำและการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้

2) การใช้สกินแคร์ที่ผสมสารบำรุงผิวและต้านอนุมูลอิสระ

ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องต่อต้านมลภาวะทางอากาศแล้ว โดยใช้หลังจากล้างหน้าจนสะอาดแล้ว ครีมบำรุงเหล่านี้จะเข้าไปฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้าย

ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อฟื้นฟูผิวจากการถูกทำลายด้วยมลภาวะต่างๆ

และช่วยขจัดอนุมูลอิสระในชั้นผิวให้หมดไป ทำให้ผิวพรรณกลับมาสดใส ริ้วรอยเหี่ยวย่นลดน้อยลง

3) การใช้ครีมกันแดดและเครื่องสำอาง

จะช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับผิว ครีมกันแดด และเครื่องสำอาง เช่น แป้งและครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมสารกันแดด สามารถที่จะช่วยปกป้องผิว ในการป้องกันอันตรายจากรังสี UVA UVB รวมถึงมลภาวะต่างๆในอากาศได้เป็นอย่างดี

4. รับประทานผักผลไม้และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

การทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงๆจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส อ่อนกว่าวัย

ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงๆ จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจากมลพิษที่โจมตีผิวในแต่ละวัน ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงเต่งตึง และริ้วรอยเหี่ยวย่นลดน้อยลงได้

เมื่อยากที่จะหลีกหนีมลภาวะ การรู้วิธีรับมืออย่างชาญฉลาดและมีตัวช่วยที่ดีก็จะทำให้คุณยังคงมีผิวพรรณที่สวยสดใส ไร้ริ้วรอย แลดูอ่อนเยาว์ไปได้อีกนาน

เครื่องสำอางคุณภาพเยี่ยมของบริษัทซัคเซสมอร์ S Mone' Perfect

บทความที่น่าสนใจ

error: do not copy content!!