
“รักษาสิว เพื่อผิวหน้าสวยของเรา..”
พูดถึงเรื่องสิว สาวๆหลายคนคงอดหนักอกหนักใจไม่ได้ ยิ่งสาวไทยที่มักต้องเผชิญทั้งแดดทั้งฝน สภาพอากาศที่โหดร้าย สภาพอารมณ์ ความเครียดที่มากขึ้นและแปรเปลี่ยนไปในแต่ละวันด้วยแล้ว
สิวก็เข้ามาถามหาได้ง่ายค่ะ ฉะนั้นถ้าอยากจะบอกลาปัญหาสิวกันแบบเด็ดขาด ก็ต้องมาเข้าใจเรื่องสิวให้ดีเสียก่อน..
สิว คืออะไร?
สิว เกิดจากการที่รูขุมขนถูกรบกวนการทำงาน ทำให้เกิดการสะสมของเคราติน (Keratin) มีลักษณะคล้ายขี้ไคลม้วนอยู่ในรูขุมขน ค่อยๆเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้เป็นหัวสิวอุดตัน มีลักษณะเป็นจุดสีขาวๆ
แล้วจะเป็นมากขึ้นด้วย เมื่ออยู่ในช่วงวัยรุ่น (7-11 ปี) เพราะมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมากระตุ้นทำให้สิวเห่อขึ้น แต่ไม่ใช่วัยรุ่นทุกคนจะต้องเป็นสิวหรอกนะ เพราะสาเหตุหลักๆอยู่ที่พันธุกรรม
แปลว่าถ้าพ่อแม่เป็นสิวลูกก็อาจเป็นด้วย นอกจากนี้หากผิวหน้าเจอกับสารที่มีความสามารถในการก่อสิว บังเอิญไปทำปฏิกิริยาบางอย่างกับความสมดุลภายในรูขุมขน อย่างเช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ก็ยิ่งก่อให้เกิดสิวได้
คนที่เป็นสิวมักมีปัญหาผิวมันและเกิดการอุดตันกลายเป็น สิวอุดตัน ชนิดหัวเปิดและชนิดหัวปิด (สิวหัวดำและสิวหัวขาว) เกิดขึ้นบริเวณใบหน้าและลำคอไหล่ หน้าอกและแผ่นหลัง
สิวที่รุนแรงปานกลางและรุนแรงมากจะเริ่มมีอาการบวมแดง อักเสบและพัฒนาเป็นหัวหนองต่อได้ และในยุคที่วิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ยุคที่การสื่อสารไปไวกว่าใจนั้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสิวมี 5ปัจจัย ดังนี้
1. การนอนหลับพักผ่อน บางทีเรามัวแต่เล่นโซเชียลมีเดียเล่นเกมส์จนเพลิน เลยทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ(น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน) ส่งผลให้ฮอร์โมนเครียดที่ชื่อ (Cortisol)มีระดับสูงขึ้น ต่อมน้ำมันจะผลิตน้ำมันมากขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อสิวอุดตันได้
2. ข่าวลวงล้น บ่อยครั้งที่ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการดูแลผิวถูกแชร์กันอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ทำให้ผู้ที่ได้รับข้อความแล้วเชื่อโดยขาดการไตร่ตรอง จึงควรศึกษาว่าข้อมูลนั้นมีแหล่งข้อมูลอ้างอิง หรืองานวิจัยสนับสนุนที่น่าเชื่อถือมั๊ยก่อนจะนำไปใช้
3. มือถือก่อสิวได้ มีสิวประเภทหนึ่งที่เกิดจากการเสียดสีและกดทับของผิวในบริเวณใดบริเวณหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดสิวเฉพาะบริเวณนั้นๆ
เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือแนบกับใบหน้านานๆบ่อยๆ คราบน้ำมันที่เกาะบนหน้าจอโทรศัพท์ บวกกับการเสียดสีที่กดทับกับใบหน้า ทำให้เกิดสิวบนใบหน้าด้านที่แนบกับโทรศัพท์มือถือได้ เราจึงต้องหมั่นทำความสะอาดหน้าจอมือถือเพื่อลดคราบน้ำมันสะสม
4. เครื่องสำอางปลอม จากกระแสโฆษณาที่เย้ายวนกับราคาที่ไม่แพง บวกกับการสั่งซื้อที่ง่ายแค่ปลายนิ้ว ความความนิยมบริโภคครีมเถื่อนออนไลน์ก็ดูจะไม่ตก
แม้ว่าครีมที่ขายบางยี่ห้อมีการลักลอบใส่สารต้องห้ามอย่างปรอท สเตียรอยด์ หรือไฮโดรควิโนน เพราะสารเหล่านี้ทำให้ลดสิวผิวใสได้ในเวลาสั้นๆ แต่ในระยะยาวจะทำให้ผิวเสพติด ผิวบางลง แพ้ง่าย เกิดสิวพุพอง และฝ้าถาวรได้
5. ความเครียดจากการทำงาน การสอบหรือทำการบ้านดึกดื่นเกินไป อาหารการกินยุคใหม่โดยเฉพาะของทอด ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ มลภาวะที่เพิ่มอย่างรวดเร็ว รังสียูวีที่รุนแรงขึ้นทุกวัน สภาพอากาศที่ไม่ดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
ความเชื่อผิดๆที่ทำให้เกิดสิวจากโลกยุคเก่า ที่วัยรุ่นก็ยังใช้อยู่..
- ครีมกันแดดจะทำให้เกิดสิวอุดตัน ที่จริงแล้วถูกไม่ทั้งหมด การใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันและซิลิโคนมากเกินไปอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ แต่ถ้าเลือกใช้สูตรที่เขียนว่า “ไม่ก่อให้เกิดความมัน(oilfree) หรือสำหรับผู้มีปัญหาสิวหรือผิวแพ้ได้ง่าย” ก็จะช่วยได้มาก
- ล้างหน้าวันละหลายๆครั้งเป็นวิธีต่อสู้สิวที่ดี ความจริงการล้างหน้าจะขจัดเอาน้ำมันธรรมชาติของผิวออกไป ซึ่งทำให้ผลิตน้ำมันมากขึ้นและเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอีก นอกจากจะล้างหน้าแล้วการขัดหน้าอย่างไม่ทะนุถนอมเพื่อการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ หรือการใช้โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอลล์เช็ดก็ยิ่งเป็นเหตุทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย
- การบีบสิวช่วยให้สิวหลุดออกเร็วขึ้น ที่จริงการบีบสิวเป็นการเสี่ยง เพราะจะเปิดทางให้แบคทีเรียแทรกซึมเข้าไปลึกในชั้นผิวหนังที่ลึกขึ้น กระจายตัวสู่บริเวณที่ยังไม่เป็นสิว เสี่ยงต่อการทำลายผิวอย่างถาวร ทั้งยังทิ้งรอยด่างดำเอาไว้ ที่ถูกต้องเราควรปล่อยให้สิวหายเองประมาณ 1-2 สัปดาห์
- การอบไอน้ำหรือใช้ผ้าชุบน้ำร้อนทำให้สิวหลุดได้ หลายคนจึงพยายามอบไอน้ำหรือใช้ผ้าชุบน้ำร้อนมาอังผิวให้รูขุมขนกว้างหวังว่าสิวจะหลุดไป แต่การวิจัยพบว่าพอผิวหน้าสัมผัสอุณหภูมิที่สูงหรือมีความชื้นมากเกินไปกลับทำให้อาการสิวกลับแย่ลงกว่าเดิม จึงควรปล่อยให้สิวอยู่ในอุณหภูมิที่พอดีจะได้ไม่ระคายเคืองและไม่ทำให้ผิวผลิตน้ำมันเยอะขึ้น
วิธีป้องกันและ รักษาสิว แบบง่ายๆ
- วิธีรักษาสิวแบบง่ายๆ คือรักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2 – 3 ครั้ง เพื่อลดความมันบนใบหน้า เวลาล้างไม่ควรถูแรงๆ ไม่ควร scrub และที่สำคัญเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับผิวของเรา
ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง คัดสรรส่วนผสมที่ดี สูตร soap-free , ปราศจากพาราเบน (paraben-free) ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่มีสารแต่งสี ไม่มีความเป็นกรด-ด่างมากเกินไป ไม่ควรมีความเข้มข้นมากจนเกินไปจนทำให้หน้าแห้งตึง
และจะดีมากสำหรับผิวมันเป็นสิว หากหลังล้างหน้าไม่แห้งตึง และมีสารช่วยลดความมันจำพวกซิงค์จะช่วยให้หน้าไม่มันเงาด้วย
- เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคลือบผิว ส่วนมากจะเป็นสารไขมันที่ทำหน้าที่เคลือบผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว หรือมีส่วนผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดสิว ควรเลือกที่เป็นสูตร oil-free และ non-comedogenic
- กรณีที่เป็นสิวระยะต้น หรือไม่รุนแรง (Mild Acne) อาจทาครีมกลุ่มเวชสำอางที่มีส่วนผสมของกรดความเข้มข้นไม่มาก เช่น LHA (Lipo-Hydroxy Acid) เพื่อทำให้มีการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
ลดการอุดตันของสิว ลดรอยดำคล้ำจากสิวได้ ร่วมกับการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว และสำหรับผิวมัน ระคายเคืองง่ายควรเลือกที่มีสารไนอะซีนามายด์ ที่ช่วยลดการระคายเคืองผิว
- สิวรุนแรง (Severe Acne)หรือไม่สามารถควบคุมได้ อาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วย เช่น การทายา การกินยา หรือวิธีร่วมอื่นๆช่วย จึงควรปรึกษาแพทย์ สำหรับการทายาและกินยารักษาสิวเช่น ยาปฏิชีวนะ ยากลุ่มกรดวิตามินเอ อาจมีผลข้างเคียงต่อผิว
เช่น ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย ไวต่อการระคายเคือง แสบ แดง เมื่อสัมผัสโดนแสงแดด จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้นผิว
นอกจากนี้ควรเลือกที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เป็นสูตร oil-free สูตร non-comedogenic มีค่า pH ใกล้เคียงผิว ปราศจากพาราเบน (paraben-free)
- หลังสิวอักเสบ มักจะทิ้งรอยแดงและรอยดำที่เกิดจากการเป็นสิวเอาไว้ สิ่งสำคัญคือไม่ควรบีบ แกะ หรือกดสิวเอง เนื่องจากจะยิ่งทำให้ สิวอักเสบ รุนแรงมากขึ้น เกิดการติดเชื้อเพิ่ม เกิดรอยแผลเป็น เกิดหลุมสิวได้ง่าย
ปัจจุบันมีเวชสำอางดูแลปัญหาสิว ผิวมันที่มีส่วนผสมของสารสำคัญ เช่น PROCERAD™ ที่มีคุณสมบัติช่วยลดสารก่อการอักเสบและยับยั้งการกระจายตัวของเมลานินสู่ผิวชั้นบน
เวชสำอางดังกล่าวสามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวทั้งยาทา ยากินได้ นอกจากคุณสมบัติในการลดปัญหาผิวจากสิวแล้ว ก็จะช่วยในการดูแลปัญหารอยแดง รอยดำจากสิวให้จางลงและไม่เข้มขึ้นอีกด้วย
ไม่ยากค่ะถ้าเราคิดจะ รักษาสิว และกำจัดสิวให้อยู่หมัด! เราต้องละเอียดสักนิด การทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยล้าเพลียแดดเพลียดลมมาแค่ไหน การทำความสะอาดผิวหน้าต้องมาก่อน
ขอย้ำ..ขณะที่มีสิวอักเสบอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า ถู ขัดหน้า อย่าใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสใบหน้า และไม่ควรจับสัมผัสหน้าบ่อย ๆ ทั้งไม่ปล่อยให้ผมมัน
สำหรับผู้ที่มีผมมันมีรังแคก็ต้องสระผมบ่อยๆ รวมทั้งงดการใช้น้ำมันใส่ผม และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เหงื่อออกมากเกินไป เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตัน
>> รักษาสิวด้วยเจลว่านหางจระเข้ S Vera <<
>> กระชับรูขุมขนเพื่อผิวเนียน เซรั่ม Tighten <<
>> ครีมกันแดด Delicious Sunscreen SPF50+++ <<