
เกษตรอินทรีย์ ..ดีจริงไหมนะ?
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “เกษตรอินทรีย์” มาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย หลายๆหน่วยงานต่างก็ส่งเสริมให้ทำ
ด้วยเหตุผลของเทคโนโลยีการเกษตรแบบใหม่ ลดต้นทุนแก่เกษตรกร ลดการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีจากต่างประเทศ
ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม.. หลักสำคัญจริงๆก็คือ เกษตรกรต้องอยู่ได้..มีกำไร มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดทั้งระยะสั้น และในระยะยาวๆเพื่อลูกหลานของเราด้วย..
จึงเกิดคำถามว่า “เกษตรอินทรีย์นั้นดีจริงหรือ? มีคุณค่าแค่ไหน? มีคุณประโยชน์ ได้ผลมั๊ย ทำได้จริงหรือเปล่า? “ เลยถือโอกาสนำผลการวิจัยด้านเกษตรอินทรีย์มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเคลียร์ข้อกังขากันครับ..
พึ่งตนเองจะทำได้มาก พึ่งคนอื่นจะทำได้น้อย
Q : คนที่ทำ “เกษตรอินทรีย์” นั้นมักสงสัยว่า เมื่อทำเกษตรอินทรีย์แล้วจะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นหรือลดลง?
A: คำตอบเรื่องนี้ไม่สามารถฟันธงแบบแน่นอนได้เลยว่าการทำเกษตรอินทรีย์จะทำให้มีผลผลิตมากกว่าเกษตรแนวอื่นเสมอไป..ในทุกพืช หรือทุกพื้นที่
จากการศึกษาวิจัยขององค์กรการอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับเรื่องเกษตรอินทรีย์และการมีอาหารเพียงพอ มีงานวิจัยจำนวนมากมาย ซึ่งพอจะสรุปผลเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการผลิต ของฟาร์มที่เปลี่ยนเป็นเกษตรอินทรีย์จากทั้ง 4 เขตภูมิอากาศ ได้ดังนี้
- ในฟาร์มที่พึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอกต่ำ ช่วง 2-3ปีแรกของการปรับเปลี่ยนเป็นการทำเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตของฟาร์มอาจลดลงเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่ลดลงเลย แต่หลังจากนั้น “กำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นจนเท่าเดิมหรืออาจสูงกว่าเดิมด้วยซ้ำ..”
- แต่ฟาร์มที่มีการพึ่งพาปัจจัยการผลิตภายนอกมาก การปรับเปลี่ยนมาเป็นเกษตรอินทรีย์จะทำให้ผลผลิตลดลง และในระยะยาวผลผลิตอาจไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้เท่ากับก่อนการปรับเปลี่ยน เพราะไม่สามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง…
คุณค่าทางอาหารมากกว่า
ข้อพิสูจน์เรื่องคุณค่าทางอาหารที่ได้จากผลผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์นั้น ขณะนี้มีงานวิจัยกันอย่างเป็นระบบแล้วพบว่า “อาหารอินทรีย์มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าอาหารที่มาจากการเกษตรแบบใช้สารเคมี ! “
งานวิจัยโดย ดร.เวอร์จิเนีย วอชิงตัน นักโภชนาการมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ได้เปรียบเทียบผลผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรทั่วไปรวมทั้งหมด 1,240 ชนิด
พบว่าคุณค่าทางโภชนาการของผลผลิตเกษตรอินทรีย์สูงกว่าผลผลิตทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเกี่ยวข้องกับ 2 ปัจจัยนี้
1. การปรับปรุงบำรุงดินในระบบเกษตรอินทรีย์ จะทำให้พืชเกษตรอินทรีย์มีระบบชีวิตภายในต้นพืชที่เรียกว่าเมทาบอลิซึม(Metabolism)ที่ดีกว่า
ทำให้ผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเช่น วิตามินซี ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และฟอสฟอรัสสูงกว่าผลผลิตที่ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์
มีไนเตรทและโลหะหนักตกค้างน้อยกว่า (ไนเตรทเป็นสารพิษที่อันตรายต่อผู้บริโภค) ขณะเดียวกันปริมาณโปรตีนในผลผลิตเกษตรอินทรีย์ไม่ต่างอย่างมีนัยเท่าไรกับผลผลิตทั่วๆไป
2. ผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีปริมาณน้ำตาลในผลผลิตต่ำกว่า(เฉลี่ย 20%) จึงทำให้มวลแห้งสูงกว่าผลผลิตทั่วไป มีปริมาณธาตุอาหารต่างๆในสัดส่วนที่มากกว่าผลผลิตทั่วไปด้วย
ฟาร์มอินทรีย์ช่วยให้โลกน่าอยู่และยั่งยืน
นอกจากคุณค่าทางสารอาหารแล้ว ประโยชน์สูงสุดของการทำเกษตรอินทรีย์คือ การอนุรักษ์สภาพแวดล้อมให้ยังงดงามและฟื้นฟูระบบนิเวศตามธรรมชาติให้กลับคืนสู่สมดุล เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเราทุกคนล้วนอาศัยอยู่กับฟ้าฝน ฤดูกาล และห่วงโซ่อาหารเดียวกันกับสรรพสิ่งอื่นๆ
จากงานวิจัยหลายแหล่งและจากเวทีนวัตกรรมและเทคโนโลยีของสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติสรุปได้ว่า ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ช่วยเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆมากกว่าฟาร์มเคมีถึงร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
พืชและสัตว์ที่เพิ่มความหลากหลายมากขึ้นนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ให้บริการทางระบบนิเวศที่ช่วยให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติ เช่น ไส้เดือนและจุลินทรีย์ดิน ซึ่งคอยย่อยซากพืชซากสัตว์ให้เป็นธุลีดินกลายเป็นอาหารอันโอชะอย่างสมบูรณ์แบบแก่พืชพรรณธัญญาหารของคนและสัตว์อื่น
รวมไปถึงการควบคุมเหล่าสัตว์น้อยใหญ่อย่างแมลงศัตรูธรรมชาติที่คอยกัดกินแมลงศัตรูพืชให้มีความสมดุลไม่มากหรือน้อยเกินไปจนเกิดการระบาดของโรคแมลงได้
นอกจากนี้ยังช่วยผสมเกสรให้พืชติดผลหรือกระจายส่วนขยายพันธุ์อย่างเมล็ดออกไปตามระบบนิเวศธรรมชาติอีกด้วย โลกนี้จึงยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความหลากหลายต่างๆนั่นเอง และนี่เป็นจุดสำคัญของระบบนิเวศโลกใบนี้
กลไกธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากความหลากหลาย (Diversity)ทางชีวภาพในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ช่วยให้เกษตรอินทรีย์ทุกคนมีธรรมชาติเป็นเพื่อนร่วมทำงานและได้ผลผลิตเป็นพืชผักผลไม้ที่แข็งแรงและอุดมไปด้วยคุณค่า
ขณะที่มลพิษจากการเกษตร เช่น การชะล้างของธาตุอาหารไปสู่แหล่งน้ำ หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้น เกษตรอินทรีย์ก็น้อยกว่าเกษตรเคมี
ที่สำคัญดินในฟาร์มเกษตรอินทรีย์มีความสามารถในการกักเก็บธาตุคาร์บอนจากก๊าซในอากาศอย่างคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนได้ดีกว่าฟาร์มเกษตรเคมีอีกด้วย
ข้อดีมากมายเช่นนี้ แฟนเกษตรอินทรีย์พันธ์แท้น่าจะคลายความสงสัยและมั่นใจขึ้นแล้วว่า การทำเกษตรอินทรีย์นั้นเป็นคุณค่าใหม่ของสังคมที่เติบโตมาพร้อมการศึกษาเรียนรู้และวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เชื่อกันมาอย่างไม่มีการพิสูจน์คุณค่าแต่อย่างใด ไม่ได้ไร้ที่มาที่ไป…
การทำเกษตรอินทรีย์จึงเป็นการทำเกษตรกรรมที่สมบูรณ์แบบ (The Best farm) สร้างความสมดุลต่อห่วงโซ่อาหาร สอดคล้องกับธรรมชาติ ยั่งยืนต่อมวลมนุษย์ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ทรานส์ฟอร์ม (Transform) เป็นอีกนวตกรรมนึงของการให้อาหารแก่พืชที่ส่งตรงถึงระดับเซลล์ด้วยนาโนเทคโนโลยี โดยไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี
เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการทำเกษตรอินทรีย์ ทั้งยังส่งผลให้ความต้านทานของเชื้อโรค แมลง และวัชพืชต่างๆต่อพืชลดลง ช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชลงได้ ช่วยลดต้นทุนการผลิตแก่ชาวไร่ ชาวสวนอีกด้วย..
>> อาหารพืชทรานส์ฟอร์ม สูตร 1,2 <<
>> อาหารพืชทรานส์ฟอร์ม ดีกว่าปุ๋ยน้ำทั่วไปอย่างไร <<