FAQ, ทำไมถึงเกิดโยโย่

ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้เกิด “โยโย่”

%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b9%88-yoyo-effect

ทำไมถึง “โยโย่”

เมื่อลดความอ้วน

ปกติแล้วคำว่า โยโย่ นั้น หมายถึงลูกดิ่งที่เด็กๆชอบเล่นกัน เวลาโยนลงไปมันก็สามารถเด้งกลับมาได้ ทางการแพทย์จึงเรียกปรากฏการณ์ที่น้ำหนักตัวลดลงไปแล้วกลับเพิ่มมาอีกครั้งว่า “โยโย่” นั่นเอง

โยโย่เอฟเฟค (YOYO EFFECT)

หากอธิบายอย่างเป็นทางการ คือ ภาวะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยน้ำหนักตัวเด้งขึ้นๆลงๆ หรือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆภายหลังจากการเริ่มลดน้ำหนักและมักจะจบลงด้วยน้ำหนักตัวที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น จนอาจเพิ่มมากกว่าก่อนลดน้ำหนักเสียอีก

ทำไมลดความอ้วนแล้วโยโย่

ด้วยพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนในสังคมปัจจุบัน ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว ทำให้เริ่มหันมาใช้บริการแบบจัดส่งอาหารถึงบ้าน (Food Delivery)

ทำให้มีความสะดวกในการทานอาหารง่ายขึ้น จึงทำให้เกิดการบริโภคอาหารเพิ่มมากขึ้น จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ และกลายเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น

เมื่อเป็นโรคอ้วนแล้ว ก็จะส่งผลต่อการเกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกหลายโรค ทั้งโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวานเป็นต้น ทำให้คุณภาพชีวิตย่ำแย่ลง

ภาวะอ้วน จากการบริโภคที่มากเกินไป

ดังนั้น การตระหนักรู้ว่าไม่ควรรับประทานอาหารมากเกินปกติจนกลายเป็นโรคอ้วนจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองป่วยก่อนวัยอันควร คนส่วนใหญ่เมื่อรู้ว่าตัวเองอ้วนก็อยากจะลดความอ้วน ก็จะใช้สารพัดวิธีในการลดน้ำหนัก

ทั้งการทานยาลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย แล้วก็กลับมาทานอาหารตามปกติ สุดท้ายน้ำหนักก็ขึ้นๆ ลงๆ แต่ไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้ตามเป้าหมายเสียที จนเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟคในที่สุด

ภาวะที่ผอมลงและน้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นมาอีก เรียกว่า โยโย่

โยโย่ เกิดจากอะไร

อาการโยโย่เอฟเฟคส่วนใหญ่เป็นผลเกิดจากการควบคุมน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง เช่น การทานยาลดน้ำหนัก หรือเลือกโปรแกรมลดน้ำหนักที่อดอาหาร จนขาดพลังงานเข้าสู่ร่างกาย

เมื่อสารอาหารและพลังงานที่เข้าสู่ร่างกายลดลงมากเกินไป ทำให้ร่างกายค่อยๆสูญเสียสมดุลการเผาผลาญไป ยิ่งโปรแกรมที่ไม่ต้องออกกำลังกาย ก็จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะน้ำหนักตัวโยโย่เร็วขึ้น

การลดน้ำหนักแบบผิดๆ ทำให้เกิดโยโย่

และเมื่อเข้าสู่ภาวะโยโย่แล้ว ไม่ว่าจะใช้วิธีใดในการลดน้ำหนักก็ตาม ทันทีที่หยุดลดน้ำหนักและกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว น้ำหนักก็จะพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วและกลับมาอ้วนมากกว่าเดิม

ผลเสียจาก “โยโย่”

ภาวะน้ำหนักตัวจากโยโย่เอฟเฟค ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่ทำให้ร่างกายเผชิญกับความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ ที่ยากจะฟื้นฟูกลับคืนมาหลายอย่าง เช่น

ควรคงสภาพการลดน้ำหนักไว้ให้ร่างกายได้ปรับตัวเพื่อป้องกันการเกิดโยโย่

• ภาวะไขมันเกิน ภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบและระบบการเผาผลาญภายในร่างกายมีความผิดปกติ

• โรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด ไขมันพอกตับ โรคเบาหวาน

• อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ภูมิต้านทานต่ำลง รวมทั้งอาจเกิดอาการซึมเศร้าได้

ดังนั้น จึงควรมีความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันภาวะน้ำหนักตัวโยโย่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ เพราะภาวะน้ำหนักตัวโยโย่ เป็นสัญญาณเตือนของร่างกายว่ามีความผิดปกติ

อันมีสาเหตุจากการบริโภคอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ อาจมีภาวะเครียด ออกกำลังกายไม่ถูกต้องหรือไม่ออกกำลังกายเลย

วิธีป้องกันภาวะ “โยโย่”

ภาวะโยโย่ เกิดจากการลดน้ำหนักแบบผิดๆ

เลือกอาหารที่ให้แคลอรี่เพียงพอกับการเผาผลาญของร่างกาย

• โปรแกรมอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักต้องลดเพียงแคลอรี่ลงเท่านั้น แต่ยังมีสารอาหารครบถ้วน

• รับประทานอาหารที่มีวิตามิน เกลือแร่และไฟเบอร์ อย่างครบถ้วน

การออกกำลังกายส่งผลดีต่อร่างกาย

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักที่มากเกินไปควรให้มีช่วงพักเป็นระยะ โดยการลดน้ำหนักแต่ละครั้งไม่ควรลดเกิน 10%ของนำ้หนักตัวเริ่มต้น เมื่อลดได้แล้วให้ร่างกายได้ปรับตัวในระดับน้ำหนักนั้นสักระยะ แล้ววางแผนลดน้ำหนักในระดับถัดไป

นั่นคือเราจำเป็นจะต้องให้เวลาร่างกายปรับตัว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาหลังจากหยุดลดน้ำหนัก โดยเมื่อเราลดน้ำหนักได้ตามที่เราต้องการแล้ว เราจะต้องคงสภาพการทานและการออกกำลังกายเหมือนตอนที่เราลดน้ำหนักต่อไปอีก

แล้วค่อยๆปรับการทานและการออกกำลังกายให้กลับมาเป็นปกติ โดยให้เวลาร่างกายในการปรับตัวประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้ร่างกายสามารถจดจำน้ำหนักนั้นได้ หลังจากนั้นเราก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยจะไม่ทำให้เกิดโยโย่ขึ้นด้วย

อาหารเสริมทดแทนมื้ออาหาร หยุดอาการโยโย่

รู้หรือไม่…การทานผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร (Meal Replacement)โดยมีส่วนประกอบของโปรตีนเป็นหลัก และมีโปรตีนสนับสนุน สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีโดยไม่เกิดโยโย่เอฟเฟค

โดยโปรตีนหลักและโปรตีนสนับสนุนที่มีความสำคัญต่อการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งปกติจะแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร 1-2 มื้อ/วัน และควรเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น

ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนักให้ได้ผลนอกเหนือไปจากการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม

และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณสามารถรักษาระดับน้ำหนักได้โดยไม่เกิดโยโย่

อาหารเสริมทดแทนมื้ออาหาร เสริมโปรตีน

ผลิตภัณฑ์ Hy Pro และ All Pro ได้รับการออกแบบมาให้ทดแทนอาหารมื้อปกติ

สำหรับผู้ที่ต้องการลดและควบคุมน้ำหนักในระยะยาว ก็ยังมีความจำเป็นต้องออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมอาหารด้วย เพื่อให้ลดมวลไขมันโดย
รักษามวลกล้ามเนื้อให้คงที่มากที่สุด

ซึ่งการทานโปรตีนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายสูญเสียโปรตีนไประหว่างลดน้ำหนักด้วย  เมื่อโปรตีนในร่างกายลดลงร่างกายก็จะเผาผลาญลดลงด้วย

เวย์โปรตีน ออลโปร All Pro Whey

ดังนั้นการควบคุมอาหารให้ถูกต้อง จึงเป็นกุญแจสำคัญต่อการควบคุมน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งน่าเสียดายสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยเน้นการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว

แต่ไม่ได้ดูเรื่องโภชนาการของอาหาร ประเภทอาหาร ปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในอาหารแต่ละมื้อ จึงไม่สามารถควบคุมน้ำหนักให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงอาจขาดโปรตีนที่เพียงพอเพื่อไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้หุ่นฟิตกระชับอีกด้วย

☆☆ ตารางการควบคุมน้ำหนัก แบบไม่เกิดโยโย่เอฟเฟค ☆☆

ตารางทานอาหารเสริมโปรตีน ป้องกันการเกิดโยโย่เอฟเฟค

hypro ลดน้ำหนักเสริมโปรตีน หุ่นสวย

บทความที่น่าสนใจ

error: do not copy content!!